scoops

เรื่องอื่นๆ

ถ่ายรูปปลากัน(ให้)ดีกว่า(เดิม) by Aropharma ตอนที่ 1

มาถ่ายรูปปลากัน(ให้)ดีกว่า(เดิม) ตอนที่ 1 by Aropharma


ระยะหลังๆมานี่สังเกตว่ามีกระทู้สอบถามเกี่ยวกับการถ่ายภาพปลากันอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน คิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ตัดสินใจว่า.... เอาน่ะ ขอเสนอแนวคิด(บวกวิชาการเล็กๆ) เอามาแบ่งปันกัน น่าจะพอเป็นประโยชน์บ้าง ยังไงก็ลองอ่านกันดูแล้วกันนะครับ เริ่มจากส่วนที่สำคัญที่สุดก่อน....

เติมแสงอย่างไรให้เต็มภาพ

จริงๆแล้วอยากจะทำกระทู้นี้ก่อนเรื่อง DOF ครับ เนื่องจากไม่มีเวลาทำเลยจริงๆ และคาดว่าหลายๆท่านก็คงเข้าใจแล้ว เนื่องจากรู้สึกว่าเป็นเรื่องพื้นฐานเรื่องแรกๆของการถ่ายภาพเลยด้วยซ้ำไป แต่มีหลายครั้งที่ได้คุยกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ถ่ายภาพด้วยกันแล้วพบว่ายังไม่ค่อยเข้าใจ เลยขอเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหน่อยนะครับ


เรื่องของเรื่องจริงๆก็คือจะถ่ายภาพอย่างไรให้แสงพอดี ....

ผมมักจะบอกเสมอว่าการถ่ายภาพเหมือนการเติมน้ำใส่ถัง อ้าว...ถ่ายภาพก็ยกกล้องขึ้นมาโฟกัส จัดองค์ประกอบ แล้วก็ลั่นชัตเตอร์สิ มันเหมือนเติมน้ำใส่ถังตรงไหน จริงๆแล้วผมหมายถึงการวัดแสงของกล้อง เพื่อเลือกใช้ค่าความไวชัตเตอร์ และรูรับแสงให้พอดีกับการถ่ายภาพขณะนั้นต่างหาก เริ่มจะเข้าเค้าบ้างรึยังครับ... เราๆชาวอะโรฯ ซึ่งเลี้ยงปลากันมานาน เปลี่ยนน้ำปลากันบ่อยๆ ก็คงจะเข้าใจกันไม่ยากแน่นอน


การถ่ายภาพซักภาพ(การเติมแสงจนเต็มภาพ) ก็เหมือนการเติมน้ำให้เต็มตู้ปลานั่นแหล่ะครับ เอาอีกแล้วตาเมย์นี่ เมื่อกี้ก็บอกเหมือนเติมน้ำใส่ถัง คราวนี้มาบอกเหมือนเติมน้ำเต็มตู้ แหมก็คุยกับคนเลี้ยงปลาก็ต้องพูดเรื่องตู้สิ...(จะพูดเรื่องอ่างเดี๋ยวพี่ๆบางท่านจะคิดไปทางอื่น)

เราลองนึกถึงตอนเราเต็มน้ำเข้าตู้ปลานะครับ ถ้าน้ำที่เราเปิดมันไหลแรง เราเปิดน้ำแป๊บเดียวก็เต็มตู้แล้ว ในทางกลับกันถ้าน้ำก๊อกที่บ้านไหลเอื่อยๆ ก็คงต้องรอกันนานเลยกว่าจะเต็มตู้ ฉันใดก็ฉันนั้นครับ การถ่ายรูปก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ถ้าหากเราถ่ายภาพตอนแสงดีๆ แสงมากๆ สว่างๆ เราเปิดรับแสงแป๊บเดียวก็ได้แสงเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีแสงน้อยๆตู้มืดๆแบบนี้คงต้องเปิดรับแสงกันนานหน่อยกว่าจะได้แสงเต็มรูป....


ในเมื่อตู้ของเราก็ตู้ใบเดิมขนาดก็เท่าเดิม การเปลี่ยนแปลงความแรงของน้ำที่ไหลกับระยะเวลาที่เปิดก๊อกต้องตรงข้ามกัน ถ้าน้ำไหลแรงก็จะใช้เวลาน้อย ถ้าน้ำไหลอ่อยๆก็ต้องเสียเวลานาน สรุปคือถ้าค่าใดเพิ่ม อีกค่าหนึ่งก็ต้องลด ถ้าค่าใดลด อีกค่าหนึ่งก็ต้องเพิ่ม ถ้าเพิ่มทั้งสองอย่าง....น้ำก็ล้นตู้กันพอดี ( การถ่ายภาพก็จะได้ภาพที่สว่างกว่าที่เป็นจริง = Over exposure ) ในทางกลับกันถ้าลดทั้งสองอย่าง น้ำก็ไม่เต็มตู้ปลาก็จะอึดอัดมีพื้นที่ว่ายน้อย (การถ่ายภาพก็จะได้ภาพที่มืดกว่าที่เป็นจริง=Under exposure )


เมื่อเราเข้าใจหลักการต่างๆตามนี้แล้ว ทีนี้เราก็พร้อมที่จะเล่นกับแสงได้แล้ว.... เรามาดูกันครับว่าเราเล่นอะไรกับแสงได้บ้าง ก่อนอื่นขอให้เพื่อนๆลองทำความเข้าใจกับความหมายของการถ่ายภาพก่อน Photography ครับ มาจากคำว่า Photo = แสง กับ Graphic = การเขียน รวมกันก็จะหมายถึง "การเขียนด้วยแสง"ครับ (ผมล่ะชอบจริงๆคำนี้ ทำให้เราเข้าใจการถ่ายภาพได้ในทันที) เพราะฉะนั้นการถ่ายภาพจึงไม่ได้แตกต่างอะไรกับการใช้พู่กันจุ่มสี(แสง)มาขีดเขียนลงบนผืนผ้าใบ(CCD หรือ Film) เมื่อเราเริ่มจรดปลายพู่กันลงบนผืนผ้าใบ ก็เหมือนกับเราเริ่มเปิดรับแสง(ม่านชัตเตอร์เริ่มเปิด) และเมื่อเรายกปลายพู่กันขึ้น ก็เหมือนการปิดรับแสง(ม่านชัตเตอร์ปิด)


ตอนนี้เรามาเล่นกับแสงกัน...

ถ้าเราถ่ายภาพในสภาพที่มีแสงดี ความไวชัตเตอร์ที่ได้ก็จะสูง สูงพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของวัตถุให้หยุดนิ่งได้


แต่ถ้าเราถ่ายภาพในที่ที่แสงน้อยๆ ความไวชัตเตอร์ที่ได้ก็จะต่ำลง ต่ำลงจนเห็นภาพการเคลื่อนไหวของวัตถุนั้นๆ


แล้วถ้าเราอยากได้ความไวชัตเตอร์ที่ต่ำลงในสภาพแสงที่ดีๆล่ะ อย่างที่บอกในข้างต้นครับ เมื่อค่าใดเพิ่ม อีกค่าหนึ่งจะลด เราก็สามารถทำได้หลายวิธีครับ แต่ตอนนี้เอาแค่หรี่รูรับแสงลงก็พอ เมื่อเราบีบท่อน้ำของเราให้เล็กลงเราก็ต้องเปิดน้ำนานขึ้นถึงจะเต็มตู้ใช่มั้ยครับ....

การที่ถ่ายภาพด้วยความไวชัตเตอร์ที่ต่ำๆเนี่ย ทำให้เราเข้าใจความหมายของการเขียนด้วยแสงได้ดีขึ้นครับ ลองดูจากภาพนี้ครับ .... เมื่อเราจรดปลายพู่กันลงแล้วหยุดปลายพู่กันไว้ที่เดิม ภาพที่เกิดขึ้นก็จะเท่ากับการที่เราจรดปลายพู่กันลงมาแล้วยกขึ้น เหมือนกับส่วนของซุ้มประตูที่อยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว แต่ถ้าเราจรดปลายพู่กันลง แล้วลากไปเรื่อยๆล่ะ ลองดูที่เส้นๆบนถนนสิครับ นั่นแหล่ะการลากพู่กันแสง....


ทีนี้ก็พอจะนึกออกแล้วใช่มั้ยครับว่าทำไมหลายๆครั้งที่เราถ่ายรูปปลาออกมาแล้ว เหมือนวิญญาณปลากำลังจะออกจากร่าง.... ความไวชัตเตอร์ต่ำไปจนไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของปลานั่นเอง

ในการถ่ายภาพปลาส่วนใหญ่เราก็ต้องการที่จะได้ความไวชัตเตอร์ที่สูงๆ แล้วเราจะทำอย่างไรได้บ้างล่ะเพื่อให้ได้ความชัตเตอร์สูงขึ้น

- เพิ่มไฟในตู้ อันนี้ถ้าทำได้ดีแน่นอนครับ แต่ถ้าไม่สะดวกคงต้องมาจัดการกับกล้องของเราแทน - เปิดรูรับแสงให้กว้างขึ้น สำหรับท่านที่มีเลนส์ยอดนิยม( 50mm f/1.8 ,f/1.4 ) ของการถ่ายปลาติดตัวอยู่ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่มีล่ะ - การเพิ่ม ISO หรือความไวแสงของกล้อง อันนี้ดูจะสะดวกที่สุด แต่ที่สะดวกๆนี่ย่อมไม่ได้มีแต่ข้อดีแน่นอน คงจะต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง?


การเพิ่ม ISO หรือความไวแสงของกล้อง เหมือนการที่เราเอากรวดทรายไปใส่ในตู้ปลาครับ ถ้าเราเติมกรวดลงไปมาก น้ำที่ต้องการเติมลงในตู้ก็จะลดลงด้วย นั่นแปลว่าเราเติมน้ำได้เต็มตู้เร็วขึ้น งั้นก็ดีน่ะสิ..... ก็บอกแล้วไงว่ามันต้องแลกกัน... สิ่งที่เราต้องการคือน้ำครับ ไม่ใช่กรวด ซึ่งเจ้ากรวดที่ไปแทนที่น้ำเนี่ยก็จะกระจายเป็นเม็ดเล็กๆไปทั่วภาพ ที่เราเรียกกันว่า เกรน หรือ Noise ของภาพนั่นเอง ยิ่งเราใช้ความไวแสงมาก Noise ก็จะยิ่งมากตาม ซึ่งจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของกล้องแต่ละตัว


นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีครับ ซึ่งเป็นวิธีที่ผมชอบใช้ คือการชดเชยแสงให้ Under ลง โดยส่วนใหญ่แล้วตู้ปลาของพวกเราก็มักจะเป็นสีดำกันซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเจ้าสีดำเนี่ยเป็นสีที่หรอกเครื่องวัดแสงของกล้อง(ปกติกล้องจะวัดแสงเทียบจากสีเทากลางเป็นตัวอ้างอิง) ดังนั้นการถ่ายภาพที่มีโทนเข้ม ดำ เราก็มักจะชดเชยแสงให้กับกล้องให้มืดลงอยู่แล้ว เพื่อให้ได้แสงที่เหมือนจริง ไม่โดนหลอก ( นั่นไงลามไปเรื่องการวัดแสงแล้ว เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เอาไว้ถ้ามีโอกาสค่อยทำกระทู้ใหม่แล้วกันนะครับ) นั่นทำให้เราได้ความไวชัตเตอร์เพิ่มขึ้นมาอีก 2/3-1 stop เลยทีเดียว

อ๊ะๆ ยังไม่หมด ยังเหลืออีกก๊อกนึงครับ ไม่อยากจะบอกเลยเหมือนขี้โกงยังไงก็ไม่รู้ แต่คิดว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีแล้วกันนะ ก็คือถ่ายให้ Under ลงไปอีกครับ เพื่อให้ได้ความไวชัตเตอร์ที่สูงขึ้นไว้ก่อน ภาพจะได้ไม่สั่นไหว ที่เหลือก็ให้เป็นหน้าที่ของพี่ Photoshop เค้าล่ะครับ สำหรับผมแล้วภาพที่ Under แก้ให้แสงพอดีได้ แต่ภาพที่สั่นไหว ไม่ชัด อันนี้แก้ยากครับ ^_^

กล้อง และเลนส์

การเลือกกล้องและเลนส์ในการถ่ายภาพปลา หลายๆท่านอาจเคยอ่านกระทู้ของคุณเติ้ง ShOwA

http://www.arowanacafe.com/articles/view.php?section=8&id=61 และ

http://www.arowanacafe.com/articles/view.php?section=8&id=64 กันมาบ้างแล้ว คราวนี้ลองมาดูในมุมมองของผมบ้าง ....


กล้อง : กล้องอะไรก็ได้ครับที่สามารถถ่ายภาพได้ ก็ถ่ายภาพปลาได้ทั้งนั้น อ้าว..... พูดอย่างนี้ แล้วจะมาบอกทำไมเนี่ย... ก็มันจริงๆนี่ครับ กล้องทุกตัว(รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพได้) สามารถนำมาถ่ายรูปปลาได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่กล้องตัวละไม่กี่พัน ไปจนถึงกล้องตัวละเป็นแสนมันต้องมีส่วนต่างกันอยู่แล้ว แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ

ผมมักจะบอกว่า การซื้อกล้องที่แพงขึ้นเป็นการซื้อโอกาสในการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่จำกัด หลายครั้งที่เราอาจแยกแยะไม่ออกเลยว่าภาพ 2 ภาพ ถ่ายมาจากกล้องธรรมดาๆราคาไม่กี่บาท หรือถ่ายมาจากกล้องโปรฯเลนส์เทพ ถ้าภาพทั้ง 2 นั้นถ่ายในสภาพแสงที่ดีๆ เช่น กลางวันๆแดดดีๆ แต่ถ้าเราถ่ายภาพในสภาวะที่ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยให้ถ่ายภาพแล้ว ตอนนั้นล่ะ... เหล่าเจ้ากล้องรุ่นกลางๆหรือรุ่นโปรฯๆเค้าจะมาแสดงศักยภาพกัน


อย่างรูปนี้เนี่ยใช้ Canon Powershot G3 กล้องดิจิม่อนสมัยพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้นู่น.....

ที่บอกมาทั้งหมดไม่ได้เชียร์ให้ต้องไปเทกระเป๋าซื้อของแพงๆมาใช้กันนะครับ แค่บอกเหตุผลเฉยๆว่าทำไมราคามันถึงได้ต่างกันนัก ทีนี้เรามาดูกันว่า...เราจะเลือกกล้องแบบไหนมาถ่ายปลากัน

คุณสมบัติสำคัญของกล้องและเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพปลาที่ดี(ในความคิดของผม) -ตอบสนองรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของการโฟกัส , การลั่นชัตเตอร์ , การบันทึกภาพ -ให้ Noise ที่ต่ำใน ISO ที่สูง -น้ำหนักไม่มากจนเกินไป -ปรับตั้งใน Mode Manual (M) ได้ -White balance แม่นยำ หรือสามารถปรับตั้งได้ -อันนี้สำคัญมาก....... ซื้อมาใช้ไหว ไม่แพงจนต้องลำบากกู้หนี้ยืมสินมาซื้อ


ไม่ต้องแบกอย่างนี้มาถ่ายปลาก็ได้.... ขออนุญาตนายแบบนะครับ อิอิ

แต่ท้ายที่สุดแล้วเราคงต้องถามตัวเองดังๆว่า.....

1.ถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อกล้องไปถ่ายอะไร เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคงไม่มีใครซื้อกล้องไปวางไว้ประจำแต่หน้าตู้ แล้วบอกว่ากล้องตัวนี้ฉันจะเอาไว้ถ่ายปลาอย่างเดียว 2.เราคิดจะจริงจังกับการถ่ายภาพขนาดไหน เข้าเส้นเลยหรือเปล่า หรือว่าบันทึกเหตุการณ์เฉยๆ 3.เราจะเอาภาพที่ถ่ายได้ไปทำอะไร... เอาไปลงนิตยสาร , เอาไว้ดูเองคนเดียว , เอาไปอัดขยาย 24?*36? ไปประดับฝาบ้าน , เอาไว้โพสลงเน็ตด้วยขนาด 600*400 pixel 4.คุณมีปัญหามั้ยที่จะจ่ายแพง แพงขึ้น แพงกว่า แพงอีกแล้ว แพงกว่าใครๆในหมู่บ้าน หรือมีความสุขที่ได้ถืออุปกรณ์เก็บภาพราคาเท่าอะโรฯ 9 ตัวในตู้ 120


เชื่อว่าเมื่อหาคำตอบเหล่านั้นแล้วคงจะพอเลือกได้ว่าเราจะซื้อกล้องตัวไหน , ที่เรามีอยู่พอใช้ถ่ายได้หรือไม่ และที่สำคัญที่ควรรู้ก่อนที่จะซื้อกล้องใหม่ก็คือ กล้องที่คุณถืออยู่มันทำในสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้จริงๆหรือ หรือว่ากล้องทำได้แต่คุณใช้มันไม่เป็น....



อ่าน 3953 ครั้ง